ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์
ปฎิทิน
May 2025
Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat
    
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
สถิติ
เปิดเมื่อ19/06/2011
อัพเดท5/02/2013
ผู้เข้าชม488502
แสดงหน้า738324




เทศมหาชาติ

30/10/2011 20:01 เมื่อ 30/10/2011 อ่าน 6617 | ตอบ 3
การเทศน์มหาชาติ เทศน์มหาชาติ คือเทศนาเวสสันดรชาดกเป็นบุญพิธีที่นิยมจัดให้มีกันมาแต่โบราณส่วนมากจัดให้มีในวัดเป็นหน้าที่ของชาวบ้านและวัดนั้น ๆ จะตกลงร่วมกันจัดปกตินิยมให้มีหลังฤดูทอดกฐิน ผ่านไปแล้วจนตลอดฤดูเหมันต์ นิยมจัดเป็นงานสองวัน คือวันเทศน์เวสสันดรชาดกทั้ง ๑๓ กัณฑ์วันหนึ่ง และวันเทศน์จตุราริยสัจจกถาท้ายเวสสันดรชาดกอีกวันหนึ่งวันแรกเริ่มงานด้วยพิธีทำบุญตักบาตรพระทั้งวัดหรือเลี้ยงพระตามจำนวนที่เห็นสมควร แล้วเริ่มเทศน์เวสสันดรชาดกตามแบบเทศน์ต่อกันไปจนสุด ๑๓ กัณฑ์ถึงเวลากลางคืนบางแห่งจัดปีพาทย์ประโคมระหว่างกัณฑ์หนึ่ง ๆ ตลอดทั้ง ๑๓ กัณฑ์ด้วยวันรุ่งขึ้น ทำบุญเลี้ยงพระอีกแล้วมีเทศน์จตุราริยสัจจกถาในระหว่างเพลจบแล้วเลี้ยงพระเพลเป็นอันเสร็จพิธีระเบียบพิธีในการเทศน์มหาชาติ ที่นิยมกันเป็นหลักใหญ่ ๆ ดังนี้
 
๑)ตกแต่งบริเวณพิธีให้มีบรรยากาศคล้ายอยู่ในบริเวณป่า ตามท้องเรื่องเวสสันดรชาดกโดยนำเอา ต้นกล้วย ต้นอ้อย และกิ่งไม้มาผูกตามเสา และบริเวณรอบ ๆ ธรรมาสน์ประดับธงทิว และ ราวัติ ฉัตร ตามสมควร
 
๒) ตั้งขันสาครใหญ่หรือจะใช้อ่างใหญ่ที่สมควรก็ได้ใส่น้ำสะอาดเต็ม สำหรับปักเทียนบูชาประจำกัณฑ์ในระหว่างที่พระเทศน์ น้ำในภาชนะที่ตั้งนี้เสร็จพิธีแล้วถือว่าเป็นน้ำพระพุทธมนต์ที่สำคัญ ภาชนะใส่น้ำนี้ตั้งหน้าธรรมาสน์ กลางบริเวณพิธี
 
๓) เตรียมเทียนเล็ก ๆจำนวน ๑,๐๐๐ เล่ม แล้วนับแยกจำนวนเป็นมัด มัดหนึ่งมีจำนวนเท่าคาถาของกัณฑ์หนึ่งแล้วทำเครื่องหมายไว้ให้ทราบ ว่ามัดไหนสำหรับบูชาคาถากัณฑ์ใดเมื่อถึงคราวเทศน์กัณฑ์นั้นก็จะเอาเทียนมัดนั้นออกจุดบูชาติดรอบ ๆ ภาชนะน้ำต่อกันไปจนจบกัณฑ์ให้หมดมัดพอดี ครบ ๑๓ กัณฑ์ถ้วน จำนวน ๑,๐๐๐ เล่ม เท่าจำนวนคาถาบางแห่งนิยมทำธงเล็ก ๆ ๑,๐๐๐ คัน แบ่งจำนวนเท่าคาถาประจำกัณฑ์เช่นอย่างเทียนแล้วปักธงบูชาระหว่างกัณฑ์บนหยวกกล้วย แต่การใช้ธงไม่เป็นที่นิยม เช่น เทียนการจุดเทียนหรือปักธงบูชากัณฑ์ดังกล่าวเป็นหน้าที่ของเจ้าภาพผู้รับกัณฑ์นั้น ๆการเทศน์เวสสันดร มีวิธีเทศน์เป็นทำนองโดยเฉพาะจะต้องได้รับการฝึกอบรมศึกษาต่อท่านผู้ทรงคุณวุฒิทางนี้เป็นพิเศษส่วนการเทศน์จตุราริยสัจจกถามีระเบียบพิธีอย่างเทศน์ในงานดังกล่าวแล้วข้างต้น
ประเพณีงานเทศน์มหาชาติ
งานเทศน์มหาชาตินี้นิยมทำกันหลังออกพรรษาพ้นหน้ากฐินไปแล้ว อาจทำในวันขี้น ๘ ค่ำกลางเดือน ๑๒หรือในวันแรม ๘ ค่ำก็ได้ ซึ่งในช่วงนี้น้ำเริ่มลดและข้าวปลาอาหารกำลังอุดมสมบูรณ์จึงพร้อมใจกันทำบุญทำทานและเล่นสนุกสนานรื่นเริง แต่ในภาคอีสานนั้นนิยมทำกันในเดือน๔ เรียกว่า 'งานบุญผะเหวด' ซึ่งเป็นช่วงที่เสร็จจากการทำบุญลานเอาข้าวเข้ายุ้งในภาคกลาง บางท้องถิ่นทำกันในเดือน ๕ ต่อเดือน ๖ ก็มีงานเทศน์มหาชาตินั้นจะทำในกาลพิเศษจะทำในเดือนไหนก็ได้ไม่จำกัดฤดูกาลโดยมากเพื่อเป็นการหาเงินเข้าวัด บางแห่งนิยมทำในเดือน ๑๐การเทศน์มหาชาตินั้นมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด ๑๓ กัณฑ์เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระเวสสันดรอันเป็นพระชาติสุดท้ายของพระบรมโพธิสัตว์ก่อนที่จะมาประสูติเป็นเจ้าชายสิทธัตถะและออกบวชจนตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าดังตำนานต่อไปนี้
ตำนานเทศน์มหาชาติ ๑๓กัณฑ์
การเทศน์มหาชาติคือการมหากุศลที่เตือนบุคคลให้น้อมรำลึกถึงการบำเพ็ญบุญ คือความดีที่ยิ่งยวดอันมีการสละความเห็นแก่ตัวเพื่อผลประโยชน์สูงอันไพศาลของมวลมนุษยชาติเป็นสำคัญเป็นเทศกาลที่คงความหมายอย่างแท้จริง
การเทศน์ทุกกัณฑ์จะมีผู้เป็นเจ้าภาพจัดกัณฑ์เทศน์ถวายเมื่อพระที่ตนรับกัณฑ์เทศน์ขึ้นเทศน์เจ้าภาพจะจุดเทียนบูชาคาถาหว่านข้าวตอกข้าวสารการเทศน์ในสมัยก่อนพระเจ้าของกัณฑ์จะอ่านจากอักษรธรรม(อักษรลาว)ซึ่งจารลงบนใบลานเป็นแผ่นยาว คำว่า 'จาร' มาจากภาษาเขมรแปลว่าการเขียนด้วยเหล็กแหลมบนใบลานแต่ปัจจุบันจะนิยมพิมพ์ลงบนใบลานเป็นตัวหนังสือไทยปัจจุบันเป็นเรื่องราวในแต่ละกัณฑ์ ทั้งนี้เพื่อความสะดวกสำหรับพระรุ่นใหม่ 
ความคิดเห็น :
2
อ้างอิง
 อานิสงส์ การฟังเทศน์มหาชาติ  การตั้งใจฟังเทศน์มหาชาติให้จบเพียงวันเดียวครบบริบูรณ์  ทั้ง ๑๓ กัณฑ์จะเป็นเหตุให้สำเร็จความปรารถนาทุกประการดังนี้       
          ๑.  เมื่อตายจากโลกนี้แล้ว  จะได้สมบัติ ๓ ประการ คือจะได้มนุษย์สมบัติ  สวรรค์สมบัติ และนิพพานสมบัติ หมายความว่า เกิดชาติใหม่จะไม่ต่ำกว่ามนุษย์ และจะเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งมีทั้งมีความสุข ความรวย ความสวย ความดี เรียกว่าเกิดชาติใหม่จะไม่ยากไม่จน
          ๒.  เมื่อตายไปแล้วจะไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์  จะเสวยทิพยสมบัติมโหฬาร
          ๓.  เมื่อตายไปแล้วรับประกันได้ว่าจะไม่ตกลงไปในอบาย หรือที่เราเรียดกันว่าจะไม่ตกนรก ยกเว้นแต่ทำกรรมอย่างหนัก เช่น ฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ดังนี้เป็นต้น
          ๔.  เมื่อถึงยุคพระพุทธเจ้าพระนามว่า  ศรีอริยเมตไตย  เทพบุตร เทพธิดา ที่เคยฟังเทศน์มหาชาติเหล่านั้น จักได้จุติลงไปเกิดเป็นมนุษย์ พร้อมด้วย ลาภ ยศ พบแต่ความสุขนิจนิรันดร์  จะได้ฟังพระธรรมเทศนาต่อหน้าพระพักตร์ของพระพุทธองค์นามว่าพระศรีอริยเมตไตย   ครั้นได้ฟังพระธรรมเทศนา ก็จักได้บรรลุมรรคผลนิพพาน เป็นพระอริบุคคลในพระบวรพุทธศาสนาในอนาคตกาล
            ตรงนี้เป็นคำกล่าวของพระศรีอริยเมตไตยเทพบุตร ที่บอกกับพระมาลัยเถระว่าถ้า ใครอยากจะพบศาสนาของโยมจงหมั่นฟังเทศน์มหาชาติ ให้ครบ ๑๓ กัณฑ์ ๑๐๐๐ พระคาถา เพราะภายภาคหน้านอกจากจะได้มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ แล้ว หากปรารถนาจะพบศาสนาพระศรีอริยเมตไตยก็จะได้พบสมความปรารถนา จึงถือว่าการ ฟังเทศน์มหาชาติจนครบ ๑๓ กัณฑ์ เป็นบุญใหญ่ได้กุศลแรงซึ่งเป็นการทำบุญที่ทำได้ยาก   
นอก จากอานิสงส์โดยรวมในการฟังเทศน์มหาชาติทั้ง ๑๓ กัณฑ์  แล้ว ในแต่ละกัณฑ์ยังมีอานิสงส์แยกย่อยออกไปอีก ซึ่งในแต่ละกัณฑ์ก็มีอานิสงส์แตกต่างกันไป เรียกว่าแล้วแต่ใครอยากจะได้อานิสงส์ของกัณฑ์ไหนก็บูชากัณฑ์นั้นไป ดังนี้        
                   ผู้ใดบูชากัณฑ์ทศพร จะได้อานิสงส์ดังนี้ จะได้รับทรัพย์สมบัติดังปรารถนา  ถ้าเป็นสตรีจะได้สามีเป็นที่ชอบเนื้อเจริญใจ ถ้าเป็นบุรุษจะได้ภรรยาเป็นที่ต้องประสงค์ ทั้งจะได้บุตรหญิงชาย เป็นคนว่านอนสอนง่าย มีรูปกายงดงาม มีความประพฤติดี กิริยาวาจาเรียบร้อยทุกประการ
                    ผู้ใดบูชากัณฑ์หิมพานต์ จะได้อานิสงส์ดังนี้  ย่อมได้ในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ ครั้นตายไปแล้วจะได้ไปบังเกิดในสุคติโลกสวรรค์  เสวยสมบัติอันโอฬาร มีบริวารแวดล้อมบำรุงบำเรออยู่เป็นนิจ  ครั้นจุติจากสวรรค์แล้วจะลงมาเกิดในตระกูลขัตติยะมหาศาล หรือตระกูลพราหมณ์มหาศาลอันบริบูรณ์ด้วยทรัพย์ศฤงคาร บริวารมากมายนานาประการ  เช่น โค กระบือ ช้าง ม้า รถ ยานพาหนะ นับประมาณมิได้  ประกอบด้วยความสุขกายสบายใจทุก ๆ อิริยาบถ
                    ผู้ใดบูชากัณฑ์ทานกัณฑ์ จะได้อานิสงส์ดังนี้  จะบริบูรณ์ด้วยแก้วแหวนเงินทอง ทาส ทาสี และสัตว์สองเท้าสี่เท้า ครั้นตายแล้วจะได้ไปเกิดในฉกามาพจรสวรรค์ มีนางเทพอัปสรแวดล้อมมากมาย  เสวยสุขอยู่ในปราสาทแล้วด้วยแก้ว 7 ประการ
                     ผู้ใดบูชากัณฑ์วนปเวสน์ จะได้อานิสงส์ดังนี้  จะได้รับความสุขทั้งโลกนี้และโลกหน้า จะได้เป็นบรมกษัตริย์ในชมพูทวีปเป็นผู้ทรงปรีชา  เฉลียวฉลาด  สามารถปราบอริราชศัตรูให้ย่อยยับไป
                      ผู้ใดบูชากัณฑ์ชูชก จะได้อานิสงส์ดังนี้  จะได้บังเกิดในตระกูลกษัตริย์  ประกอบด้วยสมบัติอันงดงามกว่าชนทั้งหลายจะเจรจาปราศรัยก็ไพเราะเสนาะโสต  แม้จะได้สามีภรรยาและบุตรธิดา ก็ล้วนแต่มีรูปทรงงดงามสอนง่าย
                       ผู้ใดบูชากัณฑ์จุลพน จะได้อานิสงส์ดังนี้  แม้จะบังเกิดในภพใด ๆ  จะเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยทรัพย์บริวาร  จะมีอุทยานอันดารดาษด้วยดอกไม้หอมตลบไป  แล้วจะมีสระโบกขรณีอันเต็มไปด้วยปทุมชาติ  ครั้นตายไปแล้วก็ได้เสวยทิพย์สมบัติในโลกหน้าสืบไป
                        ผู้ใดบูชากัณฑ์มหาพน จะได้อานิสงส์ดังนี้  จะได้เสวยสมบัติในดาวดึงส์เทวโลก  และจะได้ลงมาเกิดเป็นกษัตริย์มหาศาล  มีทรัพย์ศฤงคารบริวารมาก  มีอุทยานและสระโบกขรณีเป็นที่ประพาส เป็นผู้บริบูรณ์ด้วยศักดานุภาพเฟื่องฟุ้งไปทั่วชมพูทวีป  อีกจักได้เสวยอาหารทิพย์เป็นนิจนิรันดร
                       ผู้ใดบูชากัณฑ์กุมาร จะได้อานิสงส์ดังนี้  ย่อมประสบความสำเร็จในสิ่งที่พึงปรารถนาครั้นตายไปได้เกิดในฉกามาพจรสวรรค์  ในสมัย  ที่พระศรีอาริยเมตไตรยมาอุบัติก็จะได้พบศาสนาของพระองค์ จะได้ถือปฏิสนธิ
ในตระกูลกษัตริย์  ตลอดจนได้สดับตรับฟังพระสัทธรรมเทศนาของพระองค์แล้วบรรลุพระอรหัตผลพร้อม ด้วยปฏิสัมภิทาทั้ง 4 ด้วยบุญราศีที่ได้อบรมไว้
                       ผู้ใดบูชากัณฑ์มัทรี จะได้อานิสงส์ดังนี้ เกิด ในโลกหน้าจะเป็นผู้มั่งคั่ง สมบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ เป็นผู้มีอายุยืนยาว ทั้งประกอบด้วยรูปโฉมงดงามกว่าคนทั้งหลาย จะไปในที่ใด ๆ ก็จะมีแต่ความสุขทุกแห่งหน
                        ผู้ใดบูชากัณฑ์สักกบรรพ จะได้อานิสงส์ดังนี้ จะได้เป็นผู้เจริญด้วยลาภ ยศ ตลอดจนจตุรพิธพรทั้ง 4 ประการ ได้แก่ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ตลอดกาล
                        ผู้ใดบูชากัณฑ์มหาราช จะได้อานิสงส์ดังนี้  จะได้มนุษยสมบัติ สวรรค์สมบัติ และนิพพานสมบัติ เมื่อเกิดเป็นมนุษย์จะได้เป็นพระราชา เมื่อจากโลกมนุษย์ไปก็จะได้ไปเสวยทิพย์สมบัติในฉกามาพจรสวรรค์  มีนางเทพอัปสรเป็นบริวาร ครั้นบารมีแก่กล้าก็จะได้นิพพานสมบัติอันตัดเสียซึ่งชาติชรา พยาธิ มรณะ พ้นจากโอฆะทั้งสาม มีการโมฆะ เป็นต้น
                        ผู้ใดบูชากัณฑ์ฉกษัตริย์ จะได้อานิสงส์ดังนี้  จะได้เป็นผู้เจริญด้วยพร 4 ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละทุก ๆ ชาติแล
                        ผู้ใดบูชากัณฑ์นครกัณฑ์ จะได้อานิสงส์ดังนี้  จะได้เป็นผู้บริบูรณ์ด้วยวงศาคณาญาติ  ข้าทาสชายหญิง  ภรรยาสามี  หรือบิดามารดา เป็นต้น  อยู่พร้อมหน้ากันโดยความผาสุก ปราศจากโรคาพาธทั้งปวง  จะทำการใด  ๆ  ก็พร้อมเพรียงกัน  ยังการงานนั้น ๆ ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
 
พระสมุห์ปัญญา [113.53.78.xxx] เมื่อ 4/11/2011 10:08
3
อ้างอิง
 อานิสงส์การฟังธรรมตามกาล

       การฟังธรรมมีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว มีเรื่องในชาดกเล่าไว้ว่า ครั้งหนึ่งขณะ ที่พระพุทธเจ้ากำลังทรงแสดงธรรมอยู่นั้น ปรากฏว่าคนฟังมีพฤติกรรมแปลก ๆ เช่น นั่งหลับบ้าง มองท้องฟ้าหรือแหงนดูดาวบ้าง แหย่เพื่อน ๆ ขีดเขียนดินเล่นบ้าง ฟังธรรมด้วยความเคารพบ้างหลัง จากจบพระธรรมเทศนา มีอุบาสกคนหนึ่งเข้าไปทูลถามพระพุทธเจ้าเกี่ยวกับพฤติกรรมคนเหล่านี้ พระพุทธองค์ตรัสว่า คนที่นั่งหลับเวลาฟังธรรม ชาติก่อนเคยเกิดเป็นงูเหลือม เพราะงูเหลือมหลังจากกินอาหารเต็มอิ่มแล้วก็จะหลับ คนที่มองท้องฟ้าหรือแหงนดูดาว ชาติก่อนเคยเกิดเป็นหมอดู หรือนักพยากรณ์ดวงชะตาราศี คนที่ชอบแหย่เพื่อนเล่น ชาติก่อนเคยเกิดเป็นลิง จึงอยู่ไม่เป็นสุข แหย่คนโน้นทีคนนี้ทีตามสัญชาตญาณเดิมที่ติดตัวมาคนที่ขีดเขียนดินเล่น ชาติก่อนเคยเกิดเป็นไส้เดือน จึงมีอาการแสดงออกคล้ายจะหาที่อยู่เดิมของตน ส่วนคนที่ฟังธรรมด้วยความเคารพ ชาติก่อนเคยเกิดเป็นนักปราชญ์ราชบัณฑิต จึงสนใจ และเอาใจจดจ่ออยู่กับการฟังตลอดเวลา มีความกระตือรือร้นในทางก้าวหน้าอยู่เสมอ จึงฟังด้วยความสุขใจ เอิบอิ่มใจอย่างยิ่ง
การฟังธรรมมีอานิสงส์ ๕ อย่าง คือ

         ๑. อัสสุตัง สุณาติ           ได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟังและได้เรียนรู้สิ่งที่ยังไม่เคยเรียนรู้
         ๒. สุตัง ปะริโยทะเปติ      สิ่งที่เคยได้ฟังแล้วก็จะทำให้เข้าใจชัดเจนแจ่มแจ้งยิ่งขึ้น
         ๓. กังขัง วิหะนะติ            สามารถแก้ข้อข้องใจ บรรเทาความสงสัยในเรื่องนั้น ๆ ได้
         ๔. ทิฏฐิง อุชุง กะโรติ      ทำความเห็นให้ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม
         ๕. จิตตะมัสสะ ปะสีทะติ จิตใจย่อมผ่องใส คือสะอาด สงบ และสว่าง
 
 
พระสมุห์ปัญญา [113.53.78.xxx] เมื่อ 4/11/2011 10:10
ความคิดเห็นของผู้เข้าชม
ชื่อผู้แสดงความคิดเห็น :
สถานะ : รหัสผ่าน :
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง :
รหัสความปลอดภัย :
 


ขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา