๑. ทานวรรค คือ หมวดทาน
๑. ทานญจ ยุทธญจ สมานมาหุ.
ท่านว่า ทานและการรบ เสมอกัน
สํ. ส. ๑๕ / ๒๙ ขุ. ชา. อฎฺฐก. ๒๗ / ๒๔๙.
๒. นตถิ จิตเต ปสนนมหิ อปปกา นาม ทกขิณา.
เมื่อจิตเลื่อมใสแล้ว ทักขิณาทานชื่อว่าน้อย ย่อมไม่มี.
ขุ. วิมาน. ๒๖ / ๘๒.
๓. วิเจยย ทานํ สุคตปฺปสตฺถํ.
การเลือกให้ อันพระสุคตทรงสรรเสริญ
สํ. ส. ๑๕ / ๓๐. ขุ. ชา. อฏฺฐก. ๒๗ / ๒๔๙. เปต. ๒๖ / ๑๙๗.
๔. พาลา หเว นปปสํสนติ. ทานํ.
คนพาลเท่านั้น ย่อมไม่สรรเสริญทาน.
ขุ. ชา. ๒๕ / ๓๘.
๕. ททํ มิตตานิ คนถติ.
ผู้ให้ ย่อมผูกไมตรีไว้ได้.
สํ. ส. ๑๕ / ๓๑๖.
๖. ททํ ปิโย โหติ ภชนติ นํ พหู.
ผู้ให้ ย่อมเป็นที่รัก คนหมู่มากย่อมคบเขา.
อง. ปญจก. ๒๒ / ๔๓.
๗. ททมาโน ปิโย โหติ.
ผู้ให้ ย่อมเป็นที่รัก.
อง. ปญจก. ๒๒ / ๔๔.
๘. สุขสส ทาตา เมธาวี สุขํ โส อธิคจฉติ.
ปราชญ์ผู้ให้ความสุข ย่อมได้รับความสุข.
อง. ปญจก. ๒๒ / ๔๕.
๙. มนาปทายี ลภเต มนาปํ
ผู้ให้สิ่งที่ชอบใจ ย่อมได้สิ่งที่ชอบใจ.
อง. ปญจก. ๒๒ / ๕๕.
๑๐. เสฏฐนทโท เสฏฐมุเปติ ฐานํ.
ผู้ให้สิ่งประเสริฐ ย่อมถึงฐานะที่ประเสริฐ.
อง. ปญจก. ๒๒ / ๕๖.
๑๑. อคคสส ทาตา ลภเต ปุนคคํ.
ผู้ให้สิ่งที่เลิศ ย่อมได้สิ่งที่เลิศอีก.
อง. ปญจก. ๒๒ / ๕๖.
๑๒. ททโต ปุญญํ ปวฑฒติ.
เมื่อให้ บุญก็เพิ่มขึ้น.
ที. มหา. ๑๐ / ๑๕๙. ขุ. อุ. ๒๕ / ๒๑๕.
๑๓. ทเทยย ปุริโส ทานํ.
คนควรให้ของที่ควรให้
ขุ. ชา. สตตก. ๒๗ / ๒๑๗
๒. ศีลวรรค คือ หมวดศีล
๑. สีลํ ยาว ชรา สาธุ.
ศีลยังประโยชน์ให้สำเร็จตราบเท่าชรา.
สํ. ส. ๑๕ / ๕๐
๒. สุขํ ยาว ชรา สีลํ.
ศีลนำสุขมาให้ตราบเท่าชรา.
ขุ. ธ. ๒๕ / ๕๙.
๓. สีลํ กิเรว กลยาณํ.
ท่านว่าศีลนั่นเทียว เป็นความดี
ขุ. ธ. ๒๕ / ๕๙.
๔. สีลํ โลเก อนุตฺตรํ.
ศีลเป็นเยี่ยมในโลก
ขุ. ชา. เอก. ๒๗ / ๒๘
๕. สํวาเสน สีลํ เวทิตพพํ.
ศีลพึงรู้ได้เพราะอยู่ร่วมกัน.
นัย- ขุ. อุ. ๒๕ / ๑๗๘.
๖. สาธุ สพพตถ สํวโร.
ความสำรวมในที่ทั้งปวง เป็นดี.
สํ. ส. ๑๕ / ๑๐๖. ขุ. ธ. ๒๕ / ๖๔.
๗. สญญมโต เวรํ น จียติ.
เมื่อคอยระวังอยู่ เวรย่อมไม่ก่อขึ้น.
ที. มหา. ๑๐ / ๑๕๙. ขุ. อุ. ๒๕ / ๒๑๕.
๘. สีลํ รกเขยย เมธาวี.
ปราชญ์พึงรักษาศีล.
ขุ. อิติ. ๒๕ / ๒๘๒.
๓. สติวรรค คือ หมวดสติ
๑. สติ โลกสมิ ชาคโร.
สติเป็นธรรมเครื่องตื่นอยู่ในโลก.
สํ. ส. ๑๕ / ๖๑.
๒. สติมโต สทา ภททํ.
คนผู้มีสติ มีความเจริญทุกเมื่อ.
สํ. ส. ๑๕ / ๓๐๖.
๓. สติมา สุขเมธติ.
คนมีสติ ย่อมได้รับความสุข.
สํ. ส. ๑๕ / ๓๐๖.
๔. สติมโต สุเว เสยโย.
คนมีสติ เป็นผู้ประเสริฐทุกวัน.
สํ. ส. ๑๕ / ๓๐๖.
๖. รกขมาโน สโต รกเข.
ผู้รักษา ควรมีสติรักษา.
ส. ส.
๔. ปาปวรรค คือ หมวดบาป.
๑. มลา เว ปาปกา ธมมา อสมึ โลเก ปรมหิ จ.
บาปธรรมเป็นมลทินแท้ ทั้งในโลกนี้ ทั้งในโลกอื่น.
อง. อฏฺฐก. ๒๓ / ๑๙๘. ขุ. ธ. ๒๕ / ๔๗.
๒. ทุกโข ปาปสส อุจจโย.
ความสั่งสมบาป นำทุกข์มาให้.
ขุ. ธ. ๒๕ / ๓๐.
๓. ปาปานํ อกรณํ สุขํ.
การไม่ทำบาป นำสุขมาให้.
ขุ. ธ. ๒๕ / ๕๙.
๔. ปาปํ ปาเปน สุกรํ.
ความชั่วอันคนชั่วทำง่าย.
วิ. จุล. ๗ / ๑๙๕. ขุ. อุ. ๒๕ / ๑๖๘.
๕. ปาเป น รมตี สุจิ.
คนสะอาดไม่ยินดีในความชั่ว.
วิ. มหา. ๕ / ๓๔. ขุ. อุ. ๒๕ / ๑๖๖.
๖. สกมมุนา หญญติ ปาปธมโม.
คนมีสันดานชั่ว ย่อมลำบากเพราะกรรมของตน.
ม. ม. ๑๓ / ๔๑๓. ขุ. เถร. ๒๖ / ๓๗๙.
๗. ตปสา ปชหนติ ปาปกมมํ.
สาธุชนย่อมละบาปกรรมด้วยตปะ.
ขุ. ชา. อฏฺฐก. ๒๗ / ๒๔๕.
๘. ปาปานิ กมมานิ กโรนติ โมหา.
คนมักทำบาปกรรมเพราะความหลง.
ม. ม. ๑๓ / ๔๑๓. ขุ. ชา. ปกิณฺณก. ๒๗ / ๓๘๐.
๙. นตถิ ปาปํ อกุพพโต.
บาปไม่มีแก่ผู้ไม่ทำ.
ขุ. ธ. ๒๕ / ๓๑.
๑๐. ธมมํ เม ภณมานสส น ปาปมุปลิมปติ.
เมื่อเรากล่าวธรรมอยู่ บาปย่อมไม่แปดเปื้อน.
ขุ. ชา. สตฺตก. ๒๗ / ๒๒๔.
๑๑. นตถิ อการิยํ ปาปํ มุสาวาทิสส ชนตุโน.
คนมักพูดมุสา จะไม่พึงทำความชั่ว ย่อมไม่มี.
นัย- ขุ. ธ. ๒๕ / ๓๘. นัย - ขุ. อิติ. ๒๕ / ๒๔๓.
๑๒. ปาปานิ ปริวชชเย.
พึงละเว้นบาปทั้งหลาย.
ขุ. ธ. ๒๕ / ๓๑.
๑๓. น ฆาสเหตุปิ กเรยย ปาปํ.
ไม่ควรทำบาปเพราะเห็นแก่กิน.
นัย- ขุ. ชา. นวก. ๒๗ / ๒๖๒.
๕. ปุญญวรรค คือ หมวดบุญ
๑. ปุญญํ โจเรหิ ทูหรํ.
บุญอันโจรนำไปไม่ได้.
สํ. ส. ๑๕ / ๕๐.
๒. ปุญญํ สุขํ ชีวิตสงขยมหิ.
บุญนำสุขมาให้ในเวลาสิ้นชีวิต.
ขุ. ธ. ๒๕ / ๕๙
๓. สุโข ปุญญสส อุจจโย.
ความสั่งสมขึ้นซึ่งบุญ นำสุขมาให้.
ขุ. ธ. ๒๕ / ๓๐.
๔. ปุญญานิ ปรโลกสมึ ปติฏฐา โหนติ ปาณินํ.
บุญเป็นที่พึ่งของสัตว์ในโลกหน้า.
สํ. ส. ๑๕ / ๒๖ อง. ปญจก. ๒๒ / ๔๔. ขุ. ชา. ทสก. ๒๗ / ๒๙๔.
๕. ปุญญานิ กยิราถ สุขาวหานิ
ควรทำบุญอันนำสุขมาให้.
สํ. ส. ๑๕ / ๓. อง. ติก. ๒๐ / ๑๙๘.